
“ภูมิใจที่เรามีคนที่บอกว่าจะทำ แล้วทำได้จริงๆ ทำทุกวัน“ พิธีกรดังจากรายการเจาะใจ ”ดู๋-สัญญา คุณากร“ กล่าวในช่วงพูดคุยเจาะใจ “เรวัต อารีรอบ” นายกอบจ.ภูเก็ต ประเด็น “อนาคตยุคใหม่ของเกาะภูเก็ต“ ผ่านเวทีแถลงผลงาน ทุกนโยบายขับเคลื่อนภูเก็ตเพื่อประชาชน ทำได้จริง ทำทุกวัน

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 16 มิถุนายน 2567 ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เปิดเวทีแถลงผลงานการทำงานผ่านนโยบายต่างๆ ที่มุ่งขับเคลื่อนภูเก็ตเพื่อประชาชน ตลอดระยะเวลา 3 ปี 4 เดือนที่ผ่านมา โดยมีพิธีกรชื่อดังจากรายการเจาะใจ “ดู๋-สัญญา คุณากร” ร่วมพูดคุยช่วงเจาะลึกประเด็น “อนาคตยุคใหม่ของเกาะภูเก็ต“ กับนายกเรวัตฯ ด้วย และมีพี่น้องประชาชนจากทุกตำบล ทั้ง 3 เภอ เข้าร่วมรับฟังมากกว่า 1,500 คน


นายเรวัต อารีรอบ นายกอบจ.ภูเก็ต กล่าวว่า หลังได้รับการเลือกตั้ง ตนเริ่มต้นการทำงานในตำแหน่งนายกตั้งแต่ 15 ตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 แต่ก่อนเข้าทำ หน้าที่ตนได้ทำการบ้านมาก่อน แต่ในปี 2564 ตนไม่สามารถทำโครงการอื่นได้นอกจากโครงการช่วยเหลือประชาชน, การป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 และจัดหาวัคซีนมาให้กับพี่น้องประชาชน โดยได้เอาความรู้นโยบายจากกระทรวงสาธารณสุข “ส่งเสริม ป้องกัน รักษา และฟื้นฟู” มาปรับใช้ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เริ่มด้วยการใช้ #ทีมภูเก็ตหยัดได้ ฉีดพ่นฆ่าเชื้อตามวัดมัสยิดโรงเรียนและบ้านเรือนประชาชนทั่วทั้งจังหวัดภูเก็ต มา 2 ปีกว่า เป็นการให้บริการฟรีโดยไม่คิดเงินจากพี่น้องชาวภูเก็ตแม้แต่บาทเดียว


และช่วงที่บ้านเมืองเข้าขั้นวิกฤตโควิดในปี 2564 ตนได้ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว แจกถุงยังชีพให้กับประชาชนด้วยการให้ท้องถิ่นต่างๆทุกแห่ง ทั้ง อบต. เทศบาลฯ เทศบาลนครภูเก็ตเปิดลงทะเบียนรับถุงยังชีพ รวมได้รายชื่อมาทั้งหมด กว่า 65,000 ครัวเรือน อบจ.ภูเก็ต ก็ได้ทำการจัดซื้อถุงยังชีพตามจำนวนรายชื่อดังกล่าว แล้วส่งต่อไปยัง อบต. เทศบาล เพื่อไปแจกจ่ายประชาชน



นอกจากนี้ตนยังได้หารือกับผู้ว่าฯ ณรงค์ วุ่นซิ้ว ในการหางบประมาณมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการจัดอีเว้นท์ไปตามตำบลต่างๆ ทุกอบต. ทุกเทศบาล และเทศบาลนครภูเก็ต โดยได้รับเงินสนับสนุนจากสำนักงบประมาณมา เพื่อส่งต่อให้เทศบาล อบต.ต่างๆ จัดงาน “หรอยริมเล” งาน “หรอยหนัดหยัดได้” และงานเชื่อมสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง ”ภูเก็ต-พังงา“ ต่อไป


ช่วงเปิดบ้านเปิดเมืองในปี 2565 คนภูเก็ตหลายคน ทั้งคุณภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ซึ่งเป็นนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวในขณะนั้น ร่วมกับหอการค้าฯ สภาอุตสาหกรรมฯ หรือเอกชนจากภาคส่วนต่างๆ ได้คิดโครงการ ภูเก็ต แซนด์บ๊อก ขึ้น แล้วส่งไปยังรัฐบาลกลาง เพื่อให้รัฐบาล “ลุงตู่” เคาะออกมาว่าเป็นโครงการของรัฐบาลร่วมกับจังหวัดภูเก็ต จัดโครงการภูเก็ต แซนด์บ๊อก เปิดบ้านเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยว ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565
แต่ก่อนจะเปิดบ้านเปิดเมือง อบจ.ภูเก็ต ได้ซื้อวัคซีนโมเดอร์นา จากองค์การเภสัช จำนวน 6 หมื่นโดส มาฉีดให้กับพี่น้องชาวภูเก็ต เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ป้องกันโรคโควิด-19


หลังเปิดบ้านเปิดเมือง ยังไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา ตนตัดสินใจเอาเงินของอบจ.ภูเก็ต ที่มีอยู่น้อยนิดสนับสนุนไปยังสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต เพื่อไปทำโรดโชว์ตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งยุโรป ตะวันออกกลาง อินเดีย ฯลฯ เพื่อนำนักท่องเที่ยวกลับมา ตนเข้ามาทำงานที่อบจ. ตนเก็บเงินจากรายได้ผู้เข้าพัก 1% ในวันนั้น 40 ล้านบาท แต่ในวันนี้ ตนเก็บได้ถึง 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจากการไปทำโรดโชว์ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ต จนนักท่องเที่ยวล้นเมืองแล้วในขณะนี้

อย่างไรก็ตามไม่ใช่เฉพาะสมาคมฯ ท่องเที่ยวที่ทำเรื่องนี้ ต้องขอบคุณ ททท. ขอบคุณเจ้าของโรงแรมที่มีแขกเข้าพัก และขอบคุณจังหวัดภูเก็ตด้วยที่ทำเรื่องนี้
เมื่อเปิดบ้านเปิดเมืองมาเรียบร้อย มีนักท่องเที่ยวกลับเข้ามา ตนก็เริ่มเข้ามาทำงานโครงการต่างๆ ให้กับพี่น้องประชาชน
เพื่อดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชน ได้จัดกิจกรรมโครงการ 3 อำเภอ 3 อ อบจ.ท้าวิ่ง ตั้งแต่ปี 2565, 2566 และ 2567
แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้คนภูเก็ต มีสุขภาพดีที่ยั่งยืน ตนต้องสร้างสวนสาธารณะ แห่งใหม่ให้กับชาวภูเก็ต อีก 2 แห่ง แห่งแรก สวนสาธารณะเรือนจำเก่าภูเก็ต ซึ่งจะมีการจัดซื้อจัดจ้างในเดือนกรกฎาคมนี้ และรอไปอีก 18-20 เดือนจากนี้ จะมีสวนสาธารณะในเมืองแห่งใหม่ให้กับคนภูเก็ต โดยสวนสาธาณะแห่งนี้จะมีสถานที่จอดรถ 300 คัน สำหรับคนที่มาใช้บริการสวนสาธารณะและรวมถึงเป็นสถานที่จอดรถสำหรับคนที่มาเที่ยวในเขตย่านเมืองเก่าภูเก็ตด้วย โดยจะมีรถของเทศบาลนครภูเก็ตวิ่งบริการรับส่งจากจุดจอดรถไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในย่านเมืองเก่าภูเก็ตต่อไป
ส่วนแห่งที่ 2 สวนสาธารณะทุ่งถลางชนะศึก อ.ถลาง วันนี้ อบจ.ภูเก็ต ได้ทำการออกแบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว รออีก 6 เดือนก็จะมีสวนสาธารณะที่สวยงามอีกแห่ง
ขณะที่ พื้นที่ อ.กะทู้ อบจ.ภูเก็ตได้เข้าไปปรับปรุงสถานที่ออกกำลังกาย ที่โรงเหล้ากะทู้อยู่ขณะนี้ อีก 6 เดือนเสร็จ

โรงเรียนสตรีภูเก็ต ช่วงหน้าฝน น่าเห็นใจที่สุดเพราะมีปัญหาน้ำไหลมาจากคลองบางใหญ่ อำเภอกะทู้ ทางผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ได้มาปรึกษาตนเพื่อของบประมาณในการทำเขื่อนให้โรงเรียนสตรีภูเก็ต มูลค่า 27 ล้านบาท เพื่อไม่ให้น้ำแทงผนังเขื่อนทะลุไปยังอาคาร ซึ่งอาจเกิดอาคารถล่มได้ แต่โรงเรียนสตรีภูเก็ตไม่ได้เป็นโรงเรียนในสังกัดของอบจ.ภูเก็ต ตนจึงได้ไปปรึกษาเพื่อนข้าราชการของอบจ. ว่าทำอย่างไรได้บ้าง แต่บังเอิญมีการประชุมครม.ที่จังหวัดระนอง ตนจึงได้เดินทางเข้าร่วมประชุมครม.ในวาระอื่นๆ เกี่ยวกับเรื่องของงบประมาณ ตนเสนอไป 50 ล้านบาท แต่ครม.ตัดเงิน 35 ล้านบาทมาให้เทศบาลนครภูเก็ต ให้อบจ.ภูเก็ต 15 ล้านบาท และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาตนขอผ่านจากสมาชิกสภาอบจ. เพื่อเพิ่มเติมอีก 12 ล้านบาท ณ วันนี้มีงบประมาณในการจัดทำโครงการก่อสร้างเขื่อนให้โรงเรียนสตรีภูเก็ตในเดือนกรกฎาคมนี้
และเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ตนเป็นส่วนหนึ่งที่ไปนำงบประมาณมาก่อสร้างอาคาร 4 ชั้น 69 ล้านบาทให้กับโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย พร้อมด้วยอดีตผู้อำนวยการ สุเทพฯ และนายสุรศักดิ์ รักญาติ อดีตอธิบดีศาลแรงงานภาค 8 ช่วยกันผลักดันโครงการทำให้ภูเก็ตวิทยาลัย มีอาคารเรียน 4 ชั้น อยู่ที่อาคาร 3 โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย
ส่วนโรงเรียนอนุบาลภูเก็ต วันนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตได้สนับสนุนงบประมาณ จำนวน 2 ล้านบาท ไปให้โรงเรียนอนุบาลภูเก็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามที่ผู้อำนวยการโรงเรียนขอรับการสนับสนุน เพื่อก่อสร้างโดมขนาดใหญ่ ใช้บังแดดบังฝน ให้กับเด็กนักเรียนทำกิจกรรม ต่อไป
ระเบียงกระจกหาดสุรินทร์พี่น้องชาวอำเภอถลางจะได้มีแลนด์มาร์กใหม่ๆ ตามสัญญา จะเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2568
แต่ปัญหาของคนภูเก็ต ขณะนี้นั้นที่เป็นความทุกข์ที่สุด ปัญหาแรกคือปัญหารถติดแต่ อำนาจของนายกอบจ.ไม่สามารถแก้ไขได้โดยไม่ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงคมนาคม วันนี้นับถอยหลังยาวไป จนก่อนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 นี้ อบจ. ภูเก็ตจะโล๊ะรถโพท้องหรือรถสองแถวของอบจ.ทั้งหมด ออกไปจาก 3 เส้นทาง แล้วจะนำรถ EV เข้ามาทดแทนให้กับพี่น้องประชาชน นักเรียน และผู้สูงอายุ นั่งฟรี! ซึ่งจะเรียกผู้ที่ชนะการประมูลมาทำสัญญาภายในเดือนกรกฎาคมนี้ และจะได้มีรถ EV มาวิ่งก่อนปีใหม่อย่างแน่นอน


ส่วนรถโพท้องที่อบจ.จะโล๊ะทิ้ง ซึ่งมีทั้งหมด 24 คันหน่วยงานที่เป็นนิติบุคคล โรงเรียน อบต.หรือเทศบาลไหน อยากจะขอรถที่ตนโล๊ะทิ้งไปใช้งาน ให้ทำหนังสือมาถึงตน และตนจะแจกจ่ายรถทั้ง 24 คัน ไปให้กับโรงเรียนต่างๆ ได้ใช้ในกิจกรรมของโรงเรียนต่อไป
ในวันที่ 18 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ตนได้นัดกับผู้ใหญ่ในกระทรวงคมนาคมเอาไว้ เพื่อพูดคุยปัญหาการจราจรในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ทั้งหมด และในวันที่ 18 มิถุนายน จะคุยจบเรียบร้อยว่าต่อไปนี้ จะมอบเส้นทางที่สำนักงานนโยบายและแผนศึกษาเอาไว้ ที่จะทำระบบรถไฟฟ้าที่เรียกว่าระบบเทรมนั้น ถ้าหากรัฐบาลยังตัดสินใจไม่นำเรื่องรถไฟฟ้ามาใช้ ตนจะเอารถ EV มาวิ่งไปพรางๆ ก่อน เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนชาวภูเก็ตต่อไป
“คนเป็นนายกอบจ. ภูเก็ตดีและเก่งเพียงอย่างเดียวไม่พอ แต่สำคัญต้องมีคำว่าคอนเน็คชั่นหรือเป็นนักประสารสิบทิศ เพื่อให้คนภูเก็ตไปไกลมากกว่าที่เราคิดต่อไป”
“องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ได้ถ่ายโอน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพส่วนตำบล หรือรพ.สต.มาอยู่ภายใต้การดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตเรียบร้อยแล้ว และหลังการถ่ายโอน ตนก็ได้ทำโครงการ “อยู่ที่ไหน ก็ใกล้หมอ” ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี พี่น้องประชาชนชอบมาก” นายเรวัต กล่าวในช่วงแรก
และก่อนเข้าสู่ช่วงเจาะใจนายกเรวัตฯ กับพิธีกรดังจากรายการเจาะใจ ”ดู๋-สัญญา คุณากร“ ที่จะมาพูดบนเวทีกันแบบสดๆ
นายกเรวัต ได้แนะนำ บุคคลที่ช่วยพัฒนาภูเก็ตร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตให้รอดจากวิกฤตโควิด-19 คือ นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ที่ปรึกษานายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ขึ้นมาพูดคุยกับพี่น้องชาวภูเก็ต


โดยนายภูมิกิตติ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ ท่องเที่ยวจ.ภูเก็ต ได้เกิดวิกฤตโควิด-19 จ.ภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อโควิด จำนวนมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ตนได้นายเรวัต อารีรอบ ช่วยประสานให้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ และการใช้ศาลากลางหลังปัจจุบัน เป็นโรงพยาบาลสนาม การระดมฉีดวัคซีนให้คนภูเก็ตได้มีภูมิคุ้มกันหมู่ และร่วมกับททท.สำนักงานต่างประเทศ survey Pole 95% นักท่องเทึ่ยวยินดีจะกลับมาเที่ยวภูเก็ต แต่ต้องไม่กักตัวและประชาชนภูเก็ตได้รับการฉีดวัคซีนคนละ 2 เข็ม โดยปักธงเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยววันที่ 1 ก.ค.2565 เผื่อติดปัญหาอะไรจะได้ทันก่อน Hi season 3 เดือน
ในตอนแรกไม่มีคนกล้าฉีดวัคซีน จึงได้ทำแคมเปญถลกแขนเสื้อ “ฉานฉีดแล้ว” เข็มแรก 1 แสนโดส เข็ม 2 วัคซีนมีการส่งมาไม่ตามกำหนด เพราะจังหวัดอื่นๆ ก็อยากจะได้วัคซีนเช่นกัน อบจ.ภูเก็ต จึงพร้อมซื้อวัคซีนโมเดอร์น่า จนถึงวันที่ 1 ก.ค. 2565 จังหวัดภูเก็ตต้อนรับเที่ยวบินแรกจากอาบูดาบี ประกาศ ภูเก็ต แซนด์บ็อก #ซึ่งถ้าไม่มีลมใต้ปีก อย่าง “เรวัต อารีรอบ” จังหวัดภูเก็ตคงไม่มีวันนี้


และเมื่อมาถึงช่วงเจาะใจนายกเรวัตฯ กับคุณดู๋ สัญญา พิธีกรดังจากรายการเจาะใจ ได้ขึ้นมาบนเวทีแนะนำตัวเองกับประชาชน โดยบอกว่า ตั้งแต่ 20 กว่าปีที่แล้วตนและครอบครัวมาภูเก็ตบ่อยมาก มาเหมือนภูเก็ตเป็นบ้านหลังที่ 2 ของชีวิต เพราะว่าเกิดในภาคอีสาน ชอบทะเล เพราะว่าที่บ้านไม่มี และวันนี้ได้กลับมาที่นี้อีก มีวาระให้ได้กลับมา ดีใจว่าอยากจะมาฟังเรื่องราวที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับจังหวัดภูเก็ตในทางที่ดีกว่า ประเด็นที่เราน่าจะได้เก็บเกี่ยวก็คือว่า เราผ่านวิกฤตด้วยใคร ด้วยวิธีการอย่างไร ด้วยการเลือกของคนทั้งจังหวัดแบบไหน โดยขอทำรายการเจาะใจพร้อมกับเชิญนายกเรวัต ขึ้นมาพูดคุยเจาะใจบนเวที


ซึ่งช่วงหนึ่งของรายการ พิธีกร ดู๋ สัญญา ได้ถามนายกเรวัต ซึ่งเป็นเด็กภูเก็ตแต่กำเนิด ว่า
ตอนเด็กๆ มองภูเก็ตอย่างไร : “ผมเองก็ยังนึกไม่ถึงว่าภูเก็ตจะเจริญไปกว่าจังหวัดอื่นในประเทศไทย ที่คิดไม่ถึงเพราะว่า อยู่ๆ มาตั้งปี 2527 ไปจนถึงปี 2528 29 30 กราฟขึ้นไปเรื่อยๆ เลย จนมาปี 2563 กราฟมาดิ่งลง เพราะมีโควิด และตนเปรียบเกาะภูเก็ตเสมือนห้องรับแขกขนาดใหญ่ของประเทศไทย มีคนทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาภูเก็ต รวมถึงคนทั่วประเทศไทยเข้ามาเที่ยวในภูเก็ต”
เคยคิดไหมว่าจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้จ.ภูเก็ตกลายเป็นจังหวัดที่ยิ่งใหญ่ ทุกคนมีความสุข แล้วยังเป็นที่สนับสนุนให้ประเทศไทยแข็งแรงขึ้นด้วยจังหวัดของตัวเอง : “ตอนเด็กๆ ไม่ค่อยนึกไปถึง แต่พอโตขึ้นมาเรียนระดับวิทยาลัยแล้ว เราก็อยากเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนจ.ภูเก็ต อาจจะมาเป็นนายกเทศมนตรีเล็กๆ ที่บ้าน แถวต.ราไวย์ บ้านเกิด แต่ตอนหลังเปลี่ยนมาเป็นตัวแทนของคนภูเก็ต(สส.)”
ในฐานะตอนยังไม่ได้เป็นนายกอบจ. เห็นปัญหาภูเก็ต เห็นอุปสรรค มีอะไรที่จะต้องเพิ่ม หรือทำอะไรให้สิ่งนั้นดีขึ้น : “ต้องยอมรับว่าความเจริญของเมืองไปเร็วมาก จนราชการตามไม่ทัน และมีข้อจำกัดในข้อกฎหมายต่างๆ ที่จะมาพัฒนาจังหวัดด้วย แต่พอระยะหลังเราเอง พอมาเป็นนายกอบจ. เราก็ใช้การประสานงาน และบางทีในการที่เราทำอย่างไรให้คนระดับข้างบน(ส่วนกลาง) ได้เข้าใจว่า มันถึงเวลาแล้วภูเก็ตจะต้องทำอะไรบ้าง


ถ้ามองแบบคนภายนอก หลายท่านอาจจะยังไม่รู้ว่า จ.ภูเก็ต เป็นจังหวัดที่สร้างเศรษฐให้ประเทศเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพ แต่หลักการของกฎหมายในการดูแลประเทศของเราทุกจังหวัดกติกาเดียวกันหมด นั่นคือปัญหาว่านายกอบจ.แต่ละจังหวัดมีทิศทางที่ไม่เหมือนกัน ต้องประสานเก่งจริงๆ จึงจะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ : ”อันนี้สำคัญ เพราะว่าถ้าเราประสานไปแล้วไม่ได้ผล ผมถือว่าล้มเหลวในการทำงาน แต่ที่ผ่านมา ที่ผมประสานไป ร้อยละ 90 ส่วนใหญ่จะได้ประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ไม่ว่าเรื่องวัคซีน เรื่องขยายเส้นทางแก้ปัญหาจราจร หรือเรื่องของบประมาณมาพัฒนาภูเก็ตที่ขับเคลื่อนไปถึงทุกวันนี้ และขอบอกกับพี่น้องว่า ภูเก็ตเราถึงเวลาแล้ว ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด จะต้องมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น เพื่อขับเคลื่อนกลไกต่างๆ ให้เอื้อกับการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต
คิดว่าปัญหาอะไรที่เป็นวิกฤติหนักๆ นอกเหนือปัญหาจราจร ปัญหาสุขภาพ ที่กล่าวไปแล้วบ่างส่วนข้างต้น : ”ผมคิดว่านอกเหนือจากปัญหาจราจรแล้ว เรื่องโครงสร้างของเมือง ถนนหนทาง เรื่องของน้ำ ความเหลื่อมล้ำของพี่น้องประชาชน ซึ่งตอนนี้ อบจ.ภูเก็ต เราก็ได้ทำไปแล้วบางส่วน แต่ทำได้ไม่หมด เพราะว่าทำตามอำนาจหน้าที่ตามเงินงบประมาณที่ได้มาเท่านั้นเอง แต่ว่า วันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเอง ก็ยังมาบอกกับผมว่าภูเก็ตนั้นถึงเวลาแล้วจะต้องมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ที่มาจากประชาชน ได้เลือกคนของตัวเองเข้ามาบริหารบ้านเมือง เพราะงบประมาณจะได้ไม่ไหลไปอยู่ส่วนกลาง ได้เอากลับมาพัฒนาจ.ภูเก็ต“


การดูแลสุขภาพของคนภูเก็ต ที่พี่เรวัตได้คิดถึงและทำ : “ผมเชื่อในหลักการที่ว่า ส่งเสริม ป้องกัน รักษา และฟื้นฟู ผมเชิญชวนคนภูเก็ตมาออกกำลังกาย ผมทำสวนสาธารณะแห่งใหม่ สิ่งเหล่านี้ผมทำมาโดยตลอด แต่ผมอยากบอกพี่น้องประชาชน วันนี้ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต อาคาร 10 ชั้น ตึกดูแลโรคหัวใจ มูลค่า 750 ล้านบาทนั้น ผมเป็นส่วนหนึ่งที่นำงบประมาณมาสร้างให้กับพี่น้องชาว จ.ภูเก็ต และการผ่าโรคหัวใจ ถึงตึกจะสร้างเสร็จเรียบร้อย แต่จะต้องรอหมอและเครื่องมือ ส่วนหมอนั้นในวันนี้มีความพร้อมพอสมควร แต่ในส่วนเครื่องมือที่จะใช้ดูแลประชาชน จำนวน มูลค่า 51 ล้านบาท โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ออกเอง 21 ล้าน และอบจ.ภูเก็ต จะส่งมอบเงิน 30 ล้านให้โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ภายในวันที่ 25 ก.ย.นี้ เพื่อดูแลสุขภาพของคนภูเก็ต


ภูมิใจมั้ยเวลาได้ทำสิ่งแบบนี้ : ผมคิดว่าวันนี้เราภูมิใจ แล้วผมได้ตั้งงบประมาณปีที่แล้วไว้ 1,470 ล้านบาท แต่เที่ยวนี้ อบจ.เก็บยอดเกินได้ประมาณ 100 ล้าน ผมก็ดึงเงิน 30 ล้านบาทให้โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และจะแบ่งเงิน 10 ล้านให้โรงพยาบาลฉลอง เพื่อจะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับทางกระทรวงสาธารณสุขไปในคราวเดียวกันด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดูแลสุขภาพของคนภูเก็ต นอกเหนือจากการรณรงค์ให้คนภูเก็ตรักสุขภาพแล้ว แต่สิ่งเหล่านี้ผมคิดว่าคนภูเก็ตนั้นส่วนใหญ่ก็ต้องยอมรับว่า ถ้าเกินศักยภาพจากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จะต้องไปใช้บริการของมอ.สงขลา แต่วันนี้ถ้าอบจ.มอบเงินให้ 30 ล้านการยืดระยะการผ่าตัดโรคหัวใจจะสั้นลงและทำให้การรอคอยของเขาสั้นขึ้น ไม่ต้องมาสูญเสียชีวิตระหว่างทาง และอีกไม่นานเราจะมีศูนย์ฟอกไต ขนาด 30 เตียงให้กับพี่น้องชาวภูเก็ต อยู่ที่ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง”
สิ่งนึงที่ผมเห็นพี่เรวัต พยายามทำก็คือการพยายามกระจายสิ่งเหล่านี้ให้ไปถึงทุกเขตอำเภอทุกตำบล มีการพยายามดูแลให้ครบถ้วน แปลว่าออกเดินทางตลอดเวลา ทำทุกวัน : “แน่นอนครับผมทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุด”
น่าสนใจนะครับ มีคนที่บอกว่าจะทำ แล้วทำจริงๆ แล้วทำทุกวัน ก็จะเห็นได้ว่า เขารู้จักทุกพื้นที่อย่างแท้จริง ไม่ต้องดูโพย ดูอะไรเลย



ผมถามเรื่องของผู้คนยุคใหม่ ที่มีพื้นที่ มีส่วนเกี่ยวข้องดูแลจังหวัดของตัวเอง จะเป็น Gen X Gen Y Gen Z หรือแม้แต่ผู้คนที่เป็น LGBTQ+ ก็แน่นอนว่าโลกทุกวันนี้ ก็ยอมรับกันแล้วว่าเป็นคนที่มีความสามารถ ถ้าหากมีส่วน มีพื้นที่ในการดำเนินการ ภูเก็ตน่าจะเป็นเมืองที่เหมาะสมกับการแสดงสถานะที่เสมอกัน ไม่ว่าเขาจะเป็นคนแบบไหนอย่างไร ก็เป็นคนเหมือนกัน พี่เรวัต คิดอย่างไร : “ผมพร้อมรับฟังทุกเสียง ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเด็ก วัยผู้ใหญ่ วัยกลางคน พร้อมให้การสนับสนุนคนทุกกลุ่ม ให้ได้มีที่ยืนในสังคม และอีกเรื่องที่ผมลืมพูดไปผมยังสนับสนุนงบไปให้เรือนจำทุกปีๆ ละ 6 แสนบาท เพื่อฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขังได้มีอาชีพติดตัว เมื่อพ้นโทษออกไปได้มีงานทำ ไม่ต้องกลับมาติดคุกอีก แม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นเลือกผมไม่ได้แม่กระทั่งเสียงเดียว เพราะตามกฎหมายคนติดคุกเลือกตั้งไม่ได้“


ความตั้งใจของอบจ.ภูเก็ต ในการผลักดันอีเว้นท์ระดับจังหวัดให้ไปสู่ระดัสบสากล : “ที่กำลังทำอยู่คืองาน Phuket Peranakan ซึ่งเมื่อปีที่แล้วได้รับรางวัลระดับเอเชีย และเที่ยวนี้ วันที่ 22 มิ.ย.2567 ผมจะล่ารางวัลงาน Phuket Peranakan Festival 2024 ให้เกิดขึ้นระดับโลกให้ได้
และอีกประมาณ 3-4 เดือนข้างหน้า อบจ.ได้ลิขสิทธิ์ ทำศูนย์ TCDC ศูนย์เศรษฐกิจสร้างสรรค์งานออกแบบภูเก็ต เป็นศูนย์สำหรับคนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีไปถึง 80 ปี ตั้งอยู่ที่บ้านพักชาร์เตอร์แบงก์
แผนงานต่อไปที่ตั้งใจทำคือการแก้ไขการจราจร ระบบขนส่งมวลชน MRT จะทิ้งให้เป็นทุกข์ของประชาชนไม่ได้ ด้วยการประสาน 10 ทิศของตน และทีมงานจะดิ้นรนหางบประมาณมาแก้ทุกปัญหาเพื่อชาวภูเก็ตให้ได้ด้วยตนเป็นคน “ทำจริง ไม่ขายฝัน” เรวัต อารีรอบ ภูเก็ตหยัดได้



เขตปกครองพิเศษ : ผมยังยืนยันว่า ถึงผมเป็นนายกอบจ.มาจากพี่น้องประชาชนก็จริง แต่รายได้มาพัฒนาจังหวัดนั้นน้อยมาก เราต้องเสาะหา แสวงหาเงินมาแก้ไขปัญหา เวลาผมไปชี้แจงงบประมาณกับสำนักงบประมาณ ผมบอกเสมอว่าเราเอง เป็นเมืองที่สร้างรายได้ให้ประเทศไทยมาเยอะ วันนี้เรามีอาการเริ่มป่วย เริ่มปัญหาจราจร เริ่มปัญหารถติด เริ่มสินค้าแพง สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นความทุกข์ของประชาชน ผมอยากให้พี่น้องประชาชนมี ทั้งสุขภาพกายสุขภาพใจที่ดี ผมคิดว่าผมปล่อยให้ตายในมือผมไม่ได้ ผมเองจะดิ้นรน ถึงจะเป็นครั้งสุดท้ายก็จริง ผมจะดิ้นรนเพื่อพี่น้องประชาชนชาว จ.ภูเก็ต


คำถามสุดท้าย ความพยายามอยากจะขับเคลื่อนภูเก็ตด้วยสำนึกว่าท่ามกลางจังหวัดที่มีระบบเศรษฐกิจขั้นเทพเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทย แต่ท่ามกลางสิ่งนั้นเราเห็นความไม่สะดวกสบายของคนที่อยู่ในจ.ภูเก็ต ความดิ้นรน ความลำบาก ซึ่งคุณเรวัต บอกว่าอยากจะแก้ คำถามของผมคือ ถ้า 4 ปีข้างหน้าได้เข้าไปทำเพิ่มเข้าไปอีก เราจะได้เห็นอะไรในอีก 4 ปีข้างหน้า : ”ผมคิดว่าจะมีระบบขนส่งมวลชนทีดี ผมในฐานะนักประสานสิบทิศ จะแก้ปัญหานี้ไปพลางๆ ก่อน จนกว่ารัฐบาลจะมาสร้างระบบขนส่งมวลชนเป็นระบบ BTS หรือ MRT มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ผมจะทิ้งปัญหานี้ให้พี่น้องประชาชนมีความทุกข์ตลอดไปไม่ได้ด้วยหัวใจของผม“









